วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

ข้อมูลท่องเที่ยว อ.กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร

วัดนางสาว ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าไม้ เดินทางตามทางหลวงหมายเลข ๓๕ (ธนบุรี-ปากท่อ) แยกเข้าทางหลวงหมายเลข ๓๐๙๑ ประมาณ ๕ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวเข้าซอยวัดนางสาว ๒ ประมาณ ๑ กิโลเมตร ประวัติความเป็นมาของวัดมีเรื่องเล่ากันว่า เมืองสาครบุรี คือ เมืองชายทะเลตอนใต้ของกรุงศรีอยุธยา เมื่อเกิดสงครามในพม่าชาวไทยกลุ่มหนึ่งได้อพยพหนีมาตามริมแม่น้ำท่าจีน คนชราและผู้หญิงได้พากันไปหลบซ่อนในโบสถ์เก่า ต่อมาคนไทยได้ช่วยกันต่อสู้กับทหารพม่าจนได้รับชัยชนะ และผู้ที่อพยพมาได้ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณนั้น ในกลุ่มนี้มีสองพี่น้องที่เคยอาศัยโบสถ์หลบหนีภัย ทั้งสองมีความคิดที่จะบูรณะโบสถ์ใหม่ แต่พี่สาวเห็นว่าโบสถ์ทรุดโทรมมากจึงไปสร้างวัดใหม่แทน น้องสาวต้องการทำตามสัจจาธิษฐานของตนว่าถ้ารอดตายจะบูรณะซ่อมแซมโบสถ์ จึงดำเนินการบูรณะจนเสร็จและตั้งชื่อว่า “วัดพรหมจารีย์” ต่อมาชาวบ้านเรียกว่า”วัดน้องสาว” จนปัจจุบันเพี้ยนมาเป็น “วัดนางสาว” โบราณสถานที่สำคัญของวัดนี้ คือโบสถ์ที่มีฐานโค้งเป็นรูปเรือสำเภาก่ออิฐ มีประตูเข้าออกเพียงประตูเดียวชาวบ้านเรียกว่า “โบสถ์มหาอุด” หลังคามุงกระเบื้องดินเผาแบบเก่า ขื่อข้างบนใช้ไม้ซุงทั้งต้น มีเสมาคู่เป็นหินทรายขนาดเล็กอยู่รอบ ๆ โบสถ์    นอกจากนี้บริเวณหน้าวัดซึ่งติดกับแม่น้ำท่าจีน ยังมีอุทยานมัจฉาประกอบด้วยฝูงปลาสวายจำนวนมากอาศัยอยู่ นักท่องเที่ยวนิยมมาให้อาหารแก่ฝูงปลาและเที่ยวชมอยู่เสมอ
   ปล่องเหลี่ยม ตั้งอยู่ตำบลท่าไม้ ริมแม่น้ำท่าจีน เดินทางตามทางหลวงหมายเลข ๓๐๙๑ (ถนนเศรษฐกิจ ๑ แยกอ้อมน้อย-สมุทรสาคร) ไปจังหวัดนครปฐมผ่านคลองภาษีเจริญระยะทางประมาณ ๗ กิโลเมตร ปล่องเหลี่ยมเป็นปล่องเตาไฟโรงงานผลิตน้ำตาลทรายของชาวโปรตุเกส ชื่อกัปตันฮิท สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๖๗ ลักษณะของปล่องเป็นปล่องก่ออิฐถือปูนบนฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ ๔ เมตร สูง ๔ เมตร ต่อจากฐานขึ้นไปเป็นปล่องทรงแปดเหลี่ยมแต่ละเหลี่ยมกว้างประมาณ ๑ เมตร แล้วค่อย ๆ เรียวขึ้นไปจนถึงปลายสูงประมาณ ๓๐ เมตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น